เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วสำหรับใครที่อยากมีรูปร่างที่ดูดีเพอร์เฟคจะต้องทำ 2 สิ่งนี้ควบคู่กันนั่นคือ “การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย” ซึ่งครั้งนี้บีเอสแอลจะช่วยเจาะดีเทลการกิน เพื่อทำให้คุณเข้าใจอย่างถูกต้องว่า “การควบคุมไม่ใช่การอดอาหาร” แล้วเมื่อร่างกายต้องการ เราจะมีวิธี “กินยังไงให้ ผอม” ถูกวิธี หุ่นก็ดี สุขภาพก็แข็งแรงอีกด้วยค่ะ ว่าแล้วไม่รอช้าเรามาดูกันเลยดีกว่า
ข้อที่ 1 หลีกเลี่ยงอาหารขาวๆ
อาหารขาวๆในที่นี้โดยมากจะเป็นอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล หรืออาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก ซึ่งอาหารกลุ่มนี้เป็นแหล่งพลังงานต้นในการดำรงชีวิตและการทำกิจกรรมต่างๆ จะให้พลังงานสูง และทำให้เกิดกระบวนการสะสมไขมันได้ถ้าหากทานมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องใช้ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ทานเลย เนื่องจากคนที่งดอาหารประเภทแป้งไปเลย หากออกกำลังกายหรือใช้แรงเยอะๆก็อาจทำให้เกิดการสูญเสียกล้ามเนื้อได้เช่นกัน เมื่อกล้ามเนื้อน้อย ก็เผาผลาญน้อย เกิด Yoyo Effect ได้ง่าย ฉะนั้นควรเลือกทานคาร์โบไฮเดรตกลุ่มเชิงซ้อนเป็นหลัก อย่างข้าวซ้อมมือ มันเทศ ธัญพืช และถั่วต่างๆ และหลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ที่ประกอบด้วย แป้งสีขาวๆ อย่าง ข้าวขาว ขนมปังขาว น้ำตาลทรายขาว เส้นพาสต้า มันฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีอาหารสีขาวในกลุ่มของโปรตีน อย่าง ซีส และ เนย ก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน
*** อาหารสีขาวที่ดีๆมีประโยชน์ก็มีมากมาย และแนะนำให้รับประทานในช่วงการลดน้ำหนักคือ กลุ่มผักอย่าง ดอกกะหล่ำปลี หัวไชเท้า กะหล่ำปลี กลุ่มเนื้อสัตว์ได้แก่ เนื้อปลา ไข่ขาว อก,สันในไก่ และ นม เป็นต้น
ข้อที่ 2 จัดสัดส่วน แบ่งมื้อเล็ก ทานบ่อยๆ
เทคนิคอีกอย่างของการลดน้ำหนักคือ การเฉลี่ยพลังงานที่ได้จากอาหารออกเป็นครั้งย่อยๆ ข้อดีของการแบ่งอาหารออกเป็นมื้อเล็กๆย่อยๆ จะช่วยให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นการช่วยกระตุ้นการเผาผลาญให้ร่างกายอีกด้วย โดยมากจะแนะนำให้แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 5-6 มื้อ สำหรับคนที่ไม่มีเวลาอาจย่อยเป็น 4 มื้อก็ได้ตามความเหมาะสมกับตารางชีวิตขอตนเอง โดยเฉลี่ยความห่างของแต่ละมื้อประมาณ 3 ชม และจัดสัดส่วนของอาหารโดยให้มื้อหลักอย่าง มื้อเช้า มื้อเที่ยง และมื้อเย็นประกอบด้วย อาหารประเภทข้าวแป้ง 1 ส่วน ผักใบเขียว 2 ส่วน และเนื้อสัตว์ 1 ส่วน สำหรับมื้อที่เหลือเป็นของว่างระหว่างมื้อโดยให้ทานอาหารกลุ่มที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนกับโปรตีน
มื้ออาหารที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือ มื้อเช้า และมื้อเย็น(หลังออกกำลังกาย) สำหรับมื้อเช้าที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นมื้ออาหารมื้อแรกของวัน ควรทานให้ครบหมู่เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ดีมีประโยชน์และมีพลังงานเพียงพอต่อความต้องการ เพื่อใช้เป็นพลังงานในระหว่างวัน ส่วนมื้อเย็นที่เป็นมื้อหลังการออกกำลังกาย จะเป็นสารอาหารที่ชดเชยและช่วยซ่อมแซมร่างกายที่ถูกใช้งานไปในระหว่างวันและในการออกกำลังกาย ซึ่งมื้อหลังออกกำลังกายนี้อาจลดในส่วนของข้าว แป้งลง แต่เน้นในส่วนของ ผัก และโปรตีนเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เหลือเป็นพลังงานในช่วงที่ร่างกายลดการเผาผลาญลงขณะที่นอนหลับนั่นเอง
ข้อที่ 3 งดดื่มเครื่องดื่มที่ให้พลังงานก็ทำให้ ผอม ได้แล้ว
เครื่องดื่มที่ให้พลังงานส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลที่เติมเพื่อแต่งรสชาติ หรือน้ำตาลที่มีอยู่ตามธรรมชาติ หรือแม้แต่เครื่องดื่มที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เพราะเครื่องดื่มประเภท 0 แคลอรี่ จะทำให้ร่างกายเคยชินกับความหวาน และอาจทำให้ร่างกายลดการดึงพลังงานจากไขมันมาใช้ได้ ดั้งนั้นเพื่อให้ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ น้ำเปล่า ส่วนเครื่องดื่มที่ควรงดได้แก่ เครื่องดื่มหวานๆ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มปั่น และ เครื่องดื่มพวกผสมเกลือแร่
ข้อที่ 4 น้ำเปล่าตัวช่วย ผอม และดื่มน้ำ ก่อนกินอาหาร 30 นาที
น้ำเป็นสิ่งสำคัญมากในการดำรงค์ชีวิต ความเชื่อที่ว่าดื่มน้ำมากๆแล้วจะทำให้บวมน้ำเป็นความเชื่อที่ผิด ไม่เป็นความจริง ในทางกลับกันการดื่มน้ำมากๆจะทำให้ร่างกายได้น้ำอย่างเพียงพอ และลดการกักเก็บน้ำไว้ในร่างกาย ยิ่งในช่วงของการลดน้ำหนักควรดื่มน้ำมากๆ เพราะน้ำจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น ทำให้รู้สึกอิ่ม และยังช่วยลดความอยากทานของหวานๆได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำเย็นๆใส่น้ำแข็ง 1 แก้วจะทำให้การเผาผลาญพลังานเพิ่มขึ้น 1 kcal เนื่องจากร่างกายต้องปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น หรือ แม้แต่เทคนิคการดื่มน้ำแก้วใหญ่ๆ 2 แก้วก่อนมื้ออาหาร พร้อมควบคุมพลังงานรวมของอาหารในแต่ละวัน จะช่วยการลดน้ำหนักทำได้ง่ายขึ้นและทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
ข้อที่ 5 เหนื่อยทั้งสัปดาห์ ปล่อยให้มี Cheat meal สักหนึ่งมื้อ
ร่างกายต้องการการพักผ่อน การทำอะไรเดิมๆซ้ำๆจะทำให้เกิดความเครียด การควบคุมอาหารก็เช่นกัน เมื่อตลอดสัปดาห์เคร่งเครียดกับการควบคุมพลังงานและสารอาหาร ควรหาเวลาให้ร่างกายและจิตใจได้พัก ทานสิ่งที่อยากทาน ในปริมาณที่พอเหมาะ กับมื้อ Cheat meal ซักมื้อ นอกจากช่วยลดความเครียดแล้ว มื้อนี้ยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานที่ลดต่ำลงจากการ Diet ให้เพิ่มขึ้น และแถมเป็นกำลังใจให้มีแรงตั้งใจปฏิบัติการ Diet อย่างเคร่งครัดในสัปดาห์ต่อๆไปได้ แต่ให้จำไว้เสมอว่า Cheat meal แต่ละครั้งก็มีผลกระทบกับการลดน้ำหนักในสัปดาห์ต่อๆไปเช่นกัน จึงควรกะปริมาณให้พอเหมาะ และควบคุมให้ไม่เกิน 2 มื้อต่อสัปดาห์
ข้อที่ 6 กินอาหารโปรตีนสูงในมื้อเช้า
เพราะอาหารประเภทโปรตีนนั้นย่อยยาก จะช่วยให้อิ่มนาน แถมอยู่ท้อง การกินอาหารโปรตีนสูงในมื้อเช้าจะช่วยลดความอยากกินจุบจิบของเราได้ดี โดยอาหารโปรตีนสูงก็มีมากมายให้เลือกทาน เช่น ไข่ไก่ เนื้อไก่ กรีกโยเกิร์ต ปลา และนอกจากจะเลือกกินอาหารโปรตีนสูงแล้ว อย่าลืมกินอาหารที่มีกากใยสูงควบคู่ เพราะจะช่วยลดความหิวระหว่างมื้อ ลดอาการท้องอืด และช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้นด้วย
ข้อที่ 7 กินอาหารเผ็ดบ้าง
อาหารเผ็ด ช่วยเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายได้ดี เวลาที่กินอาหารเผ็ด แล้วเหงื่อแตก แสดงว่าร่างกายกำลังเผาผลาญอยู่ อาจจะเริ่มกินจากการเผ็ดเล็กน้อย หรือสมุนไพรรสเผ็ด เพราะถ้าเริ่มกินเผ็ดมากไป รสจัดมาก ก็อาจจะทำให้เป็นโรคกระเพาะได้เช่นกัน ฉะนั้นควรกินอย่างพอดีและสมดุล
ข้อที่ 8 ผอม เพราะกินดาร์คช็อคโกแลตเป็นของหวาน
สำหรับคนที่ติดขนมหวาน ขนมขบเคี้ยวทั้งหลาย ลองเปลี่ยนจากขนม มาเป็นดาร์คช็อกโกแลตนิดหน่อย สามารถช่วยให้ผอมกว่าเดิมได้ เพราะดาร์คช็อกโกแลตจะช่วยลดความอยากอาหารได้ดี แถมยังมีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงผิว ปกป้องผิวจากรังสียูวีได้อีกด้วย ได้ครบ ทั้งผอมทั้งผิวสวยกันเลยค่ะ
ข้อที่ 9 เพิ่มการกินผักให้มากขึ้นก็ ผอม ได้
ถ้าร่างกายเรามีระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายที่ดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว และผักทั้งหลายจะช่วยได้ดี เนื่องจากผักเป็นอาหารที่มีกากใยสูง กากใยจะช่วยให้ขับถ่ายได้คล่องขึ้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งยาถ่าย สำหรับผักที่มี Fiber สูงได้แก่ คะน้า บล็อคโคลี่ ถั่วลันเตา และนอกจากผักแล้ว ผลไม้ประเภทเบอร์รี่ ส้ม ก็มีกากใยสูงไม่แพ้กันค่ะ
