หมดปัญหาไขมันใต้ท้องแขนห้อยหย่อนยาน
ใส่ชุดไหนก็เซ็กซี่ ลดแขน ต้นแขนเฟิร์มกระชับ ยกแขนได้อย่างมั่นใจ
ต้นแขนใหญ่ทำไงดี? มีสาว ๆ หนุ่ม ๆ ไม่น้อยที่ชอบใส่เสื้อแขนขุด สายเดี่ยว เพื่อโชว์แขนที่เรียวสวยแต่ปัญหาไขมันสะสมที่ต้นแขน ก็เล่นทำเอาให้ขาดความมั่นใจเพราะแขนห้อยย้วย ๆ ไม่น่ามอง แถมไม่ว่าคุณจะพยายามออกกำลังกายด้วยท่าบริหารเฉพาะส่วนก็แล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำให้ผิวห้อยหย่อนคล้อยจาก “ไขมันสะสม” สลายออกไปได้ บางคนตัดสินใจใช้วิธีการดูดไขมันออก แต่รู้หรือไม่ว่าเสี่ยงต่อผลกระทบด้านลบหลายอย่างที่จะตามมาทีหลัง ไม่ว่าจะเป็น รอยแผลเป็น ผิวขรุขระไม่เรียบเนียน ซึ่งเรามีอีกหนึ่งทางเลือกเป็นวิธีที่ง่ายกว่าการดูดไขมัน การผ่าตัดเอาไขมันออก หรือการฉีดเพื่อสลายไขมันมาฝากค่ะ
3 วิธีกำจัดไขมัน ลดแขน
เพื่อแขนเรียวสวยแบบไร้ไขมันส่วนเกิน
ต้องขอบอกก่อนเลยค่ะว่า ทั้ง 3 วิธีของเรา ไม่ใช่การผ่าตัดหรือการดูดเอาไขมันออก หรือการฉีดสลายไขมัน ถึงเวลาที่ต้องกำจัดไขมันที่เป็นก้อนๆใต้ท้องแขนออกไปสักที โดยเริ่มจาก
วิธีที่ 1 : รวม 3 เทคโนโลยีพลังงาน High-Intensity Focused Ultrasound ลดแขน อย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ High-Intensity Focused Ultrasound ที่เจาะจงไปทำงานที่เซลล์ไขมันต้นแขนโดยเฉพาะ จุดเด่นของทั้ง 3 เทคโนโลยีนี้ ไม่ว่าต้นแขนของคุณจะมีปริมาณไขมันเยอะขนาดไหน เราสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับความหนาของไขมันได้ แต่ทั้ง 3 เทคโนโลยีมีจุดเด่นและความแตกต่างที่ไม่เหมือนกันค่ะ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละเทคโนโลยีนั้นเป็นอย่างไร
- Liposonix กำจัดไขมันส่วนเกิน ลดแขน ลดสัดส่วน -
การรักษาที่เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่อยากมีรูปร่างที่ดูดี
ไลโปโซนิก เป็นการสลายไขมันส่วนเกินด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ โดยคลื่นลงไปทำงานที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนังได้ลึกถึงประมาณ 13 มิลลิเมตร “ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการดูดไขมัน แต่ Liposonix ไม่ใช่การดูดไขมันออก ไม่ใช่การผ่าตัด” แต่สามารถทำให้สัดส่วนที่ต้นแขนเล็กลง ลดแขน ได้เมื่อรักษาด้วยเทคโนโลยีนี้แต่ต้องขอบอกก่อนว่าต้นแขนที่จะทำ Liposonix ได้นั้นควรหยิบไขมันขึ้นมาได้ 1 นิ้วหรือ 2.5 เซนติเมตร
ผลลัพธ์ที่จะได้รับหลังการสลายไขมัน ลดแขน ด้วย Liposonix
หลังการรักษาร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือนในการกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้ว ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนของบริเวณที่ทำการรักษาค่อยๆหดตัวเล็กลงเรื่อยๆ และจะเห็นผลชัดเจนที่ 3 เดือน
การเตรียมตัวก่อนทำและการดูแลหลังทำ Liposonix
ถ้าจะทำไลโปโซนิกต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง: เพราะเครื่องนี้ไม่ใช่การเจาะดูดเพื่อเอาไขมันออก จึงเป็นความพิเศษที่ว่า “ก่อนการรักษาคุณแทบไม่ต้องเตรียมตัวอะไรให้ยุ่งยากเลย” ก็เพราะไม่ใช่การผ่าตัดนั่นเอง และใช้เวลาในการทำ 1 ชม. นอนชิลๆ สบายๆ เหมือนมาพักผ่อนแต่กลับไปแล้วไขมันที่ใต้ท้องแขนจะค่อยๆเล็กลงและเห็นผลชัดเจนในเวลา 3 เดือนหลังการรักษาค่ะ เพื่อรูปร่างที่ดูดีแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และออกกำลังกายบริหารเฉพาะส่วนบ้างก็ดีนะคะ ไม่ใช่แค่รูปร่างที่ดูดีแต่สุขภาพของคุณก็จะแข็งแรงไปด้วยค่ะ
- UltraShape Power สลายไขมัน ลดแขน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น -
กระชับสัดส่วน รูปร่างเพรียว เพื่อหุ่นดูดีที่ทำให้คุณมั่นใจมากขึ้น
อัลตราเชฟ เพาเวอร์ เทคโนโลยีที่เป็นพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ที่ปล่อยพลังงานออกเป็นช่วงๆ(Pulse) ลงไปกำจัดไขมันส่วนเกินที่ความลึกประมาณ 15 มิลลิเมตร ได้อย่างถาวร UltraShape Power เป็นการลดสัดส่วนรูปแบบใหม่ที่เน้นให้ความปลอดภัยกับผิวด้านบน เนื้อเยื่อข้างเคียง เส้นเลือดและเส้นประสาท เพราะแบบนี้จึงทำให้ “ขณะนอนรับการรักษาคุณแทบจะไม่รู้สึกเจ็บตัวและหลังการรักษาก็แทบจะไม่เกิดรอยแดงรอยช้ำ” ซึ่งจากงานวิจัยหลังการรักษา 3 ครั้ง ( 12 สัปดาห์หลังจากการรักษาครั้งสุดท้าย) พบว่าความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนังลดลงถึง 32 % UltraShape Power จึงเหมาะสำหรับคนไข้ที่มีเวลา สามารถเข้ามาทำการรักษาได้ทุกๆ 2 สัปดาห์ แนะนำให้ทำ 3 ครั้งติดต่อกันค่ะ
ผลลัพธ์ที่จะได้รับหลังการสลายไขมัน ลดแขน ด้วย UltraShape Power
หลังการรักษาครั้งสุดท้าย (ครั้งที่ 3) จะรู้สึกได้ถึงสัดส่วนที่เล็กลงอย่างกระชับ เนื่องจากความหนาของชั้นไขมันใต้ผิวหนังลดลงถึง 32 %
การเตรียมตัวก่อนทำและการดูแลหลังทำ UltraShape Power
ก่อนการกำจัดไขมันต้นขาด้วยอัลตราเชฟ เพาเวอร์ คุณแทบไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากเลย เพราะการกำจัดไขมันวิธีนี้ไม่ใช่การผ่าตัดให้คุณต้องเจ็บตัว เพียงแค่คุณมีเวลาเข้ามารับการรักษาคุณก็สามารถลดสัดส่วนต้นแขนให้เล็กลงได้แล้ว และหลังการรักษาแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และออกกำลังกายบริหารเฉพาะส่วนบ้างก็ดีนะคะ ไม่ใช่แค่รูปร่างที่ดูดีแต่สุขภาพของคุณก็จะแข็งแรงไปด้วยค่ะ
- Ultraformer III Body Applicator -
ออกแบบมาเพื่อสลายไขมัน ตอบโจทย์บริเวณเล็กๆ ที่มีไขมันสะสม
อัลตร้าฟอร์มเมอร์ทรี บอดี้ ของหัวเครื่องมือขนาด 6 mm. ปล่อยพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์แบบMacro Focused Ultrasound ออกแบบมาเพื่อช่วยสลายไขมันบริเวณที่มีไขมันสะสมน้อยๆ หรือบริเวณเล็กๆ ไขมันต้นแขนที่ไม่เยอะมากจึงเหมาะกับเทคโนโลยีนี้ และสามารถทำลายเซลล์ไขมันได้อย่างถาวร แนะนำให้ทำ 3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างประมาณ 1 เดือน
ผลลัพธ์ที่จะได้รับหลังการสลายไขมัน ลดแขน ด้วย Ultraformer III Body
หลังการรักษา ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือนในการกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้ว ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนของบริเวณที่ทำการรักษาค่อยๆหดตัวเล็กลงเรื่อยๆ และจะเห็นผลชัดเจนที่ 3 เดือน
การเตรียมตัวก่อนทำและการดูแลหลังทำ Ultraformer III Body
ก่อนการรักษาคนไข้แทบไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก รับประทานอาหารให้อิ่มกำลังพอดี หลังการรักษาสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และออกกำลังกายเฉพาะส่วนต้นแขนบ้างค่ะ
วิธีที่ 2 : คลื่น RF เทคโนโลยีพลังงาน Radio Frequency
คลื่น RF เทคโนโลยีพลังงาน Radio Frequency หรือคลื่นวิทยุ โดยความร้อนอุ่นๆจะมุ่งเน้นยกกระชับผิวของคุณให้มีความเรียบเนียน ซึ่งตอบโจทย์สำหรับการกระชับผิวที่ผ่านการสลายไขมันมาแล้วผิวที่มีปัญหาห้อย เหี่ยวย่น หรือเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอ การใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุสำหรับการดูแลผิวบริเวณต้นแขน เราเลือก 2 เทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งมีความแตกต่างกันค่ะ ดังนี้ค่ะ
- Forma Plus พลังงาน RF (Radio Frequency) -
สลายเซลลูไลท์ ยกกระชับเพื่อผิวเต่งตึงกระชับ
ฟอร์มา พลัส เทคโนโลยีพลังงาน Radio Frequency หรือคลื่นวิทยุ สามารถใช้สลายเซลลูไลท์หรือผิวขรุขระที่มีสาเหตุมาจากไขมันได้เป็นอย่างดี ความร้อนอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส จะช่วยเน้นปรนนิบัติให้โครงสร้างใต้ผิวหนังเกิดการเรียงตัวของคอลลาเจนให้เป็นระเบียบได้ดียิ่งขึ้น เมื่อโครงสร้างใต้ผิวดีก็ส่งผลถึงผิวด้านนอก ให้เกิดผลการรักษาที่น่าพึงพอใจ ด้วย Forma Plus เป็นการใช้คลื่นวิทยุที่เรานำมารักษาต้นแขนที่มีปัญหาเซลลูไลท์ จึงแนะนำให้ทำการรักษาทั้งหมด 8 ครั้งเพื่อผลการรักษาที่ชัดเจนและคงอยู่ได้นาน โดยแนะนำให้ทำการรักษาทุก 1-2 สัปดาห์
ผลลัพธ์ที่จะได้รับหลังการสลายไขมัน ลดแขน ด้วย Forma Plus
หลังการรักษา จะรู้สึกได้ถึงผิวที่กระชับเรียบเต่งตึงขึ้น เพื่อคงผลลัพธ์การรักษาที่ชัดเจนและให้คงอยู่ได้นานขึ้น แนะนำให้ทำการรักษาทั้งหมด 8 ครั้ง
การเตรียมตัวก่อนทำและการดูแลหลังทำ Forma Plus
ถ้าคุณมีปัญหาต้นแขนหย่อนคล้อย แล้วคุณหมอผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าควรยกกระชับผิวด้วยForma Plus ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง : ฟอร์มา พลัส ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ผู้ใช้บริการหลายๆ คนต่างชื่นชอบ เพราะในขณะที่คุณทำหัตถการนี้คุณจะรู้สึกเหมือนเป็นการนวดผ่อนคลายผิวเบาๆ สบายๆ หัวเครื่องมือที่ส่งพลังงานความร้อนไปยังใต้ชั้นผิวก็เหมือนเป็นการนวดปรนนิบัติผิวไปด้วยพร้อมๆกัน โดยที่ก่อนการรักษาคุณแทบไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากและไม่ต้องกังวลว่าจะเจ็บเลยค่ะสบายและเพลินมากๆ ส่วนหลังการรักษานั้นก็กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติค่ะ
- BODY FX พลังงาน RF (Radio Frequency) -
สุดยอดนวัตกรรมที่ผสมผสานการสลายไขมัน สลายเซลลูไลท์ และการยกกระชับผิวอย่างลงตัว 3 in 1
บอดี้ เอฟเอ็ก เป็นการผสมผสาน 2 สุดยอดเทคโนโลยีอันทรงประสิทธิภาพในการกำจัดเซลล์ไขมันอย่างถาวร สลายเซลลูไลท์ และยกกระชับผิวในคราวเดียวกัน โดยอาศัยพลังงานคลื่นวิทยุ(Radiofrequency:RF) ผสานกับคลื่นวิทยุความเข้มสูง (High voltage ultrashort pulse duration RF)ที่ปล่อยออกมาช็อตสุดท้ายเพื่อฆ่าเซลล์ไขมันได้อย่างแม่นยำ ควบคู่กับการสลายเซลลูไลท์อีกทั้งช่วยกระชับผิวไปพร้อมๆกัน ผลลัพธ์ในการรักษาที่ทำให้ความหนาของชั้นไขมันบริเวณที่ทำการรักษาลดลงเฉลี่ย 40% หลังการรักษาจบคอร์ส
ผลลัพธ์ที่จะได้รับหลังการสลายไขมัน ลดแขน ด้วย Body Fx
หลังการรักษา จะรู้สึกได้ถึงผิวที่กระชับเรียบเต่งตึงขึ้น เพื่อคงผลลัพธ์การรักษาที่ชัดเจนและให้คงอยู่ได้นานขึ้น แนะนำให้ทำการรักษาทั้งหมด 8 ครั้ง
การเตรียมตัวก่อนทำและการดูแลหลังทำ Body Fx
อยากได้ต้นแขนที่เต่งตึงผิวกระชับ ถ้าทำเครื่องบอดี้ เอฟเอ็ก ต้องระวังเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษไหม : บอกได้คำเดียว “ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษเลยหากคุณจะสลายไขมันและกระชับผิวด้วยบอดี้ เอฟเอ็ก” และไม่ต้องกังวลว่าจะเจ็บด้วย เพราะขณะรับการรักษาคุณสามารถนอนหลับและรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างชิลๆ ค่ะ และหลังการรักษานั้นคุณก็ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย เพราะการกำจัดไขมันและยกกระชับผิวด้วยบอดี้ เอฟเอ็กนั้นไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่เจ็บตัวและไม่ต้องพักฟื้นร่างกาย ให้คุณกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขเหมือนเดิมค่ะ
วิธีที่ 3 : การผสมผสานเทคนิคขั้นสูงเทคโนโลยี Ultrasound ควบคู่กับเทคโนโลยี RF
เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดสำหรับการลดไขมันและยกผิวให้กระชับเต่งตึงขึ้น เราใช้วิธีการผสมผสาน2 เทคโนโลยีเข้าด้วยกัน โดยปัญหาส่วนมากที่เราพบในคนไข้ที่กำจัดไขมันเฉพาะส่วนนั้น คือเมื่อไขมันถูกกำจัดออกไปอย่างถาวรอย่างรวดเร็ว มักเกิดปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยของผิวตามมายกตัวอย่างให้เห็นภาพ เหมือนลูกโป่งที่เปรียบเหมือนร่างกาย และมีลมเปรียบเหมือนไขมันอยู่มากๆเวลาที่เราเอาลม(ไขมัน)ออกสังเกตได้ว่าผิวของลูกโป่งจะเหี่ยวย่นไม่เหมือนเดิมไร้ความเต่งตึง แต่ความเหี่ยวย่นจะมากหรือน้อยก็ต้องขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันด้วยนะคะ ดังนั้นทางที่ดีเมื่อคนไข้กำจัดไขมันด้วยพลังงานคลื่น Ultrasound ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี LIPOSONIX, Ultrashape power, Ultraformer III Body บางกอกเวทลอสเซ็นเตอร์ จึงแนะนำตัวช่วยเพื่อคืนความกระชับให้ผิวกลับมาเต่งตึง กระชับเรียบเนียนขึ้นด้วยพลังงานคลื่น RF (Radio Frequency) โดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ประเมินว่าควรรักษาเทคโนโลยีตัวไหนก่อน และระยะห่างของแต่ละเทคโนโลยี ให้ตรงกับจุดปัญหาไขมันของคุณเพื่อรูปร่างที่ดูดีแบบไม่มีไขมันและแถมด้วยผิวกระชับเรียบเนียนขึ้นค่ะ


ผลลัพธ์ที่จะได้รับหลังการสลายไขมันแบบผสมผสานเทคนิคขั้นสูงเทคโนโลยี
เพราะเป็นการสลายไขมันควบคู่กับการทำให้ผิวกระชับเต่งตึงขึ้น หลังการรักษาจะรู้สึกได้ถึงสัดส่วนต้นแขนที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัดและที่สำคัญหมดปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือเซลลูไลท์แต่กลับได้ผิวที่กระชับและเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อน ลดแขน และการดูแลหลังทำการสลายไขมันแบบผสมผสานเทคโนโลยี
การรักษาแบบผสมผสานนั้น ต้องเตรียมตัวอย่างไรหรือต้องดูแลตัวเองหลังการรักษาเรื่องไหนเป็นพิเศษไหม : คุณสบายใจได้เลยว่าก่อนเข้ามารักษานั้น ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากเลย เพราะวิธีการรักษาของเราไม่ใช่การผ่าตัดจึงไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเลยค่ะ และระหว่างที่ทำการรักษาคุณจะรู้สึกเพลินๆ เหมือนเป็นการปรนนิบัติผ่อนคลายผิวของคุณไปในตัวเลยค่ะ และหลังการรักษาสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แบบไม่ต้องพักฟื้นร่างกาย เพื่อรูปร่างที่ดูดีแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และออกกำลังกายบริหารเฉพาะส่วนบ้างก็ดีนะคะ ไม่ใช่แค่รูปร่างที่ดูดีแต่สุขภาพของคุณก็จะแข็งแรงไปด้วยค่ะ
ผลการรักษา
สลายไขมัน ลดต้นแขน

ท่าที่ 1
ท่าที่ 1 Dumbbell Shoulder Press ยืนแยกเท้าในท่าสบายๆ หลังตรง มือ 2 ข้างถือดัมเบลยกขึ้นไว้ข้างศีรษะ จากนั้นยืดขึ้นให้สุดทั้ง 2 แขน ค้างไว้สักครู่ แล้วกลับมาไว้ข้างศีรษะตามเดิม ทำทั้งหมด 3 เซ็ต เซ็ตละ 15 ครั้ง
ท่าที่ 2
ท่าที่ 2 Dumbbell Fly เริ่มจากการนอนหงายหน้าลงบนเสื่อโยคะ ลักษณะท่านี้จะคล้ายกับผีเสื้อกระพือปีก ให้กางแขนทั้งสองข้างคล้ายกำลังกางปีก ในจังหวะแรกให้หายใจเข้า จังหวะต่อไปคือการหุบปีกโดยการยกดัมเบลเข้าหากัน เทคนิคคือใช้ข้อศอกเป็นตัวนำ และเคลื่อนไหวในลักษณะวิถีโค้ง ที่สำคัญพยายามอย่าให้แขนยืดตึงเกินไป เพราะอาจจะทำให้กล้ามเนื้อฉีกได้ ทำทั้งหมด 3 เซ็ต เซ็ตละ 15 ครั้ง
ท่าที่ 3
ท่าที่ 3 Dumbbell kickback โน้มตัวลงวางเข่าข้างหนึ่งไว้บนเสื่อโยคะหรือเบาะออกกำลังกาย พร้อมกับวางมือข้างเดียวกันไว้บนเบาะเพื่อประคองตัว มืออีกข้างถือดัมเบลขนาดพอเหมาะ โดยกดัมเบลเหยียดแขนตรงไปทางด้านหลัง เสมอระดับหัวไหล่ ทำซ้ำข้างละ 3 เซ็ต เซ็ตละ 15 ครั้ง
ท่าที่ 4
ท่าที่ 4 Dumbbell Front squat เริ่มจากการยืนตรง จับดัมเบลทั้ง 2 ข้างแบบคว่ำมือ เหยียดแขนตรงแล้วยกดัมเบลทั้งสองข้างขึ้นพร้อมกันทางด้านหน้าของลำตัว ลดดัมเบลลงให้พร้อมๆ กับการย่อแบบท่าสควอท ที่สำคัญคือหลังควรตรงไม่งอ แล้วใช้แรงจากขาดันขึ้นมากลับสู่ท่าเตรียม ทำทั้งหมด 3 เซ็ต เซ็ตละ 15 ครั้ง
ท่าที่ 5
ท่าที่ 5 Dumbbell Front squat side เริ่มด้วยการย่อขาแบบท่าสควอท มือจับดัมเบลยกขึ้นที่ตรงหน้าอก จากนั้นยืดตัวขึ้นพร้อมกับยกดัมเบลขึ้นให้แขนขนานกับศีรษะ โดยบิดตัวไปด้านข้างที่ 45 องศา ทำสลับซ้ายขวา ทำเซ็ตละ 15 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซ็ต